กระบะปืนโหด ผู้หญิงดับ-เด็กเจ็บ สังเวยไอ้คลั่งสาดกระสุนยิงมั่ว

วันที่ 13 มี.ค. 2566 เวลา 07:42 น.

กระบะปืนโหด คลั่งสาดกระสุนยิงมั่ว ใครผ่านมาเป็นยิง รถบรรทุกพ่วงขับผ่านทางเคราะห์ร้าย กระสุนเฉี่ยวปากคนขับ ทะลุเข้าขมับเมียนั่งอยู่เบาะด้านข้างเสียชีวิตคาที่ เด็กชาย 14 ปี นั่งรถซาเล้งเก็บของเก่ามากับพ่อถูกยิง 2 นัด เก๋งอีกคันขับผ่านถูกยิงเจาะรถ ตร.สุพรรณบุรี จัดทีมไล่ล่าคนร้าย   กระบะปืนโหด คลั่งสาดกระสุนยิงมั่วเกิดเหตุที่สุพรรณบุรี ค่ำวานนี้ (12 มี.ค.66) พ.ต.ท.กรกฏ สบายยิ่ง สารวัตรสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี  ได้รับแจ้งมีเหตุผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช  ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วงสีขาว ทะเบียน  70-3357 ชัยนาท ตัวลูกพ่วง ทะเบียน  70-3358 ชัยนาท เป็นรถเปล่าจอดอยู่ข้างทางที่กระจกรถข้างคนขับมีรอยกระสุน 1 รู ที่เบาะนั่งคนขับ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้ขับรถบรรทุก ทราบชื่อนายวีระพันธ์ อายุ 34 ปี ถูกยิงกระสุนเข้าที่ริมฝีปาก ได้รับบาดเจ็บ แต่กระสุนทะลุไปถูกขมับขวาของ น.ส.มยุรี อายุ 32 ปี  ภรรยาที่นั่งอยู่เบาะข้างซ้าย เสียชีวิตคาที่ ตำรวจพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก นอกจากนี้พบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน เป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ขณะนั่งรถซาเล้งเก็บของเก่ามากับพ่อ และมีพบรถยนต์เก๋งสีดำ ทะเบียน 8 กถ 6945 กทม. ถูกยิงกระสุนเจาะที่กระโปรงหน้ารถ 1 นัด  โชคดีกระสุนไม่ทะลุไปโดนคนในรถ พยานให้ข้อมูลว่า รถยนต์ของคนร้าย เป็นรถกระบะสีดำ  ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไป ซึ่งลักษณะการก่อเหตุ คล้ายมีอาการคลุ้มคลั่ง ยิงมั่วไม่สนใจใคร เห็นใครขับรถผ่านยิงทันที  ซึ่งตำรวจได้เร่งตรวจสอบเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี นายวีระพันธ์  สามีของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกน้ำตาลมาจาก จ.ชัยนาท มาส่งที่โรงงานใน อ.ด่านช้าง หลังจากลงน้ำตาลเสร็จได้ขับรถกลับมาพร้อมรถบรรทุกพ่วงอีก 3 คัน กำลังจะจอดแวะกินข้าวใกล้ที่เกิดเหตุ จู่ๆ ได้ยินเสียงดังปัง จากนั้นตนก็เกิดอาการช็อกไปชั่วขณะ หลังได้สติจึงประคองรถเข้าจอดข้างทางแล้วหันไปดูภรรยาที่นั่งอยู่เบาะข้าง เห็นภรรยานอนฟุบตะแคงเลือดท่วมก็สติแตก เปิดประตูรถตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยพาภรรยาส่งโรงพยาบาล แต่พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ตนหมดหวังแล้ว อุตส่าห์เก็บเงินสร้างบ้าน เตรียมสร้างอนาคต แต่ต้องมาตายโดยที่ไม่เคยมีเรื่องกับคนร้าย ด้าน น.ส.กฤษณา อายุ 33 ปี เจ้าของรถยนต์เก๋ง ที่ถูกยิงใส่รถ เล่าว่า ขณะขับรถจะกลับบ้านที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา  มาถึงที่เกิดเหตุ  เห็นรถยนต์กระบะจอดอยู่ข้างทาง มีผู้ชายถือปืนยืนอยู่จึงเบี่ยงรถออก จู่ๆ ชายคนดังกล่าวยิงปืนใส่รถยนต์ของตนทันที ได้ยินเสียงปืน 1 นัด จึงรีบเหยียบคันเร่งหนีแต่เร่งไม่ขึ้น  จึงรีบประคองรถจอดข้างทางแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เคราะห์ดีที่ผู้โดยสารในรถ 3 ชีวิต ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทางด้านนาย มิน อายุ 70 ปี คนขับรถซาเล้งเก็บของเก่าขาย พ่อของเด็กอายุ 14 ปี ที่ถูกยิง กล่าวว่า รถยนต์กระบะขับรถมาด้านหน้าแล้วยิงปืนออกมาจากในรถหลายนัด และยิงใส่หน้ารถตัวเองจนกระจกแตกพรุน จากนั้นก็เดินลงจากรถมาที่รถซาเล้ง แล้วยิงใส่ลูกชายอายุ 14 ปี กระสุน ถูกเข้าที่แขนขวา 2 แผล จากนั้นได้หันปากกระบอกปืนมาที่ตนบอกว่าจะยิงให้ตายทั้งหมด จึงได้อธิบายไปว่า “ลุงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยนะ ไปเก็บของเก่ามาจะกลับบ้าน คนร้ายจึงหันปืนมาจ่อแล้วเขาก็ปืนยิงขึ้นฟ้า ไปอีก 3 นัด” จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถของคนร้าย เป็นรถกระบะสีดำ  ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจอดที่ปากปากทางแยกคลอง 5 ระหว่างนั้นมีรถพ่วงข้างของนาย มิน อายุ 70 ปี พ่อของเด็กอายุ 14 ปี ขับย้อนศรหาเก็บของเก่า คนร้ายไม่พอใจ ใช้อาวุธปืนยิงใส่เด็กชาย 14 ปี ได้รับบาดเจ็บก่อนจะหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วลั่นไก อีกหลายนัดทำให้กระสุนไปถูกรถพ่วงที่ขับผ่านมา จนมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขับรถวนไปดูรถพ่วง ก่อนจะกลับรถมาจอดที่เดิม และเป็นจังหวะเดียวกับที่น.ส.กฤษณา อายุ 33 ปี ขับรถยนต์เก๋งผ่านมา คนร้ายจึงใช้ปืนยิงใส่รถเก๋งอีก 1 นัด แล้วขับรถหลบหนีมุ่งหน้าปทาง จ.ชัยนาท ตำรวจได้จัดชุดไล่ล่าติดตามล่าคนร้าย หากต่อสู้ขัดขืนอาจมีมาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด