ครม.เคาะงบ 396 ล้าน ซื้อรถหุ้มเกราะกันกระสุน 150 คัน เสริมเขี้ยวเล็บจังหวัดชายแดนใต้
วันที่ 21 ก.พ. 2566 เวลา 17:51 น.
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (21 ก.พ.66) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 396 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนทดแทน ที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 150 คัน (ราคาคันละ 2.64 ล้านบาท) เนื่องจากรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผ่านการใช้งานมานานกว่า 12 ปี มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและไม่ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังเป็นรถดัดแปลงจากรถกระบะ 4 ประตู โดยติดตั้งแผ่นเกราะและกระจกกันกระสุนเพิ่มเติม ทำให้มีน้ำหนักมากกว่ารถกระบะทั่วไปประมาณ 1,500 กิโลกรัม หรือ 1.5 ตัน ส่งผลให้ช่วงล่างและเครื่องยนต์เกิดการสึกหรอเร็วกว่าปกติ ซึ่งมีจำนวน 216 คัน โดยปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กำลังดำเนินการขายทอดตลาด จำนวน 150 คัน จึงมีความจำเป็นต้องจัดซื้อรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนทดแทน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สำหรับรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนที่จัดซื้อในครั้งนี้ เป็นรถยนต์บรรทุกประเภทกระบะ (ดีเซล) ขนาด 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบดับเบิ้ลแค็บ โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันกระสุน อาทิ ติดตั้งแผ่นเหล็กป้องกันกระสุน ติดตั้งกระจกป้องกันกระสุน ติดตั้งแผ่นเหล็กป้องกันสะเก็ดระเบิด พร้อมทั้งปรับปรุงช่วงล่างและบานพับประตูให้สามารถรองรับน้ำหนักเกราะได้ น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า การจัดหารถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุนในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ในปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกลอบทำร้ายสูง และสามารถให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้ากระชับและเคลียร์พื้นที่ให้ปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือตัวประกันหรือผู้ได้รับบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น