หาปมเหตุภรรยายิง พล.ต.ท.ปัญญา หลังลูกสาวยื่นประกันตัวแม่
วันที่ 21 ก.พ. 2566 เวลา 06:12 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - คดีที่ พลตำรวจเอก ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บัญชาการประจำ สำนักงาน ผบ.ตร. ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักด้วยน้ำมือของภรรยาตัวเอง กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ ซึ่งคำถามถึงปมเหตุยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนสงสัย เหตุใดนายตำรวจระดับสูงถึงพบกับจุดจบเช่นนี้ แต่นั่นก็ยังไม่น่าเศร้ากับลูกสาวคนเดียวต้องหอบดวงใจช้ำ ๆ ไปยื่นขอประกันตัวแม่ เมื่อคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ใช้เวลายาวนานหลายชั่วโมงสอบปากคำ นางพรประภา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ พลตำรวจโท ปัญญา ปิ่นสุข ก่อนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงสามีจนเสียชีวิต สาเหตุมาจากเรื่องความเครียดปัญหาส่วนตัวภายในครอบครัว ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากนั้นเมื่อบันทึกถ้อยคำและเก็บหลักฐานในตัวของผู้ก่อเหตุเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อช่วงกลางดึกวันเดียวกัน บุตรสาวของ พลตำรวจโท ปัญญา ซึ่งมาอยู่คอยดูแลแม่มาตลอดทั้งคืน ได้ยื่นเงินสดเป็นหลักทรัพย์จำนวน 500,000 บาท ขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่พบว่าจะมีพฤติกรรมการหลบหนี มีรายงานว่า หลังได้รับการประกันตัว นางพรประภา ผู้ต้องหา จะไปอาศัยอยู่ในความดูแลของลูกสาว เพราะไม่อยากกลับเข้าไปในบ้านที่เป็นจุดเกิดเหตุอีก หากกลับไปจะต้องเจอสภาพบ้านและทำให้เกิดอาการเครียด เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับบ้านหลังเกิดเหตุดังกล่าวอยู่กันแค่เพียงสองคน เกรงว่าจะไม่มีใครดูแลสภาพจิตใจในระหว่างนี้ ขณะที่ นายชัยรัตน์ เชาวลิตพิเชษฐ์ เพื่อนบ้าน หนึ่งในคนที่เข้าไปอุ้มร่าง พลตำรวจโท ปัญญา ในวันเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากซักผ้า ขับรถผ่านมาแล้วมีช่างเหล็กเรียกให้เข้าไปช่วย ตอนนั้นไม่กล้าเข้าไปในบ้าน จึงรอให้ครบ 4 คน แล้วเข้าไปพร้อมกัน เมื่อมาครบจึงพากันขึ้นไปชั้น 2 พบร่างของนายตำรวจนอนอยู่ที่พื้นในห้องทำงานฝั่งริมน้ำในลักษณะนอนหงาย จมกองเลือด วินาทีนั้นไม่ได้สังเกตว่าร่างผู้ตายยังหายใจอยู่หรือไม่ คิดแต่เพียงว่าจะนำร่างออกมาเท่านั้น แต่พอมาถึงชั้นล่างไม่สามารถนำร่างขึ้นรถได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก ก่อนที่เพื่อนบ้านรายหนึ่งทักว่าหากเสียชีวิตไม่ควรเคลื่อนย้ายศพ ทุกคนจึงตัดสินใจวางร่างไว้กับพื้น รอการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมา พลตำรวจโท ปัญญา และภรรยา ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันมานานแล้ว ปมเรื่องมือที่สาม เป็นเหตุของโศกนาฏกรรมเป็นประเด็นที่ถูกร่ำลือในโลกโซเชียล แต่มีอดีตนายตำรวจซึ่งเคยร่วมงานกับ พลตำรวจโท ปัญญา มากกว่า 10 ปี ยืนยันว่า พลตำรวจโท ปัญญา เป็นคนดี ซื่อสัตย์ เป็นที่รักของลูกน้อง และตั้งใจทำงาน สมัยที่ตนเองทำงานกับท่าน ก็เคยเห็นท่านออกงานร่วมกับภรรยาเป็นประจำ ซึ่งภรรยาท่านก็เป็นคนใจดีและดูรักใคร่ ไม่เคยมีปัญหา หรือ ทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน อดีตลูกน้องของ พลตำรวจโท ปัญญา ยังบอกอีกว่า พลตำรวจโท ปัญญา เองไม่เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาวและเรื่องเที่ยวผู้หญิง ปกติแกเป็นคนทำงานยันดึกดื่น คาดว่าปมเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากปัญหาอื่นภายในครอบครัว อีกประเด็นหนึ่งที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า พลตำรวจโท ปัญญา อาจเผชิญความเครียดจากการทำคดีกวาดล้างแก๊งพนันออนไลน์มาเก๊า888 ในฐานะประธานชุดสอบสวนคดีนี้ หลังจากขณะนี้ออกหมายจับไปแล้ว 55 คน ติดตามจับได้แล้ว 44 คนมาดำเนินคดี ทาง พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เปิดเผยว่าไม่เกี่ยวข้องกับความเครียด หรือกดดันจากการทำงาน เพราะไม่มีการเร่งรัดในการสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมา พลตำรวจโท ปัญญา ก็ทำงานอย่างเต็มที่ และมีความรู้ความสามารถในการสอบสวน และได้รับความสัมพันธ์อันดีจากผู้บัญชาการ สอท. จึงได้มาร่วมในคณะทำงาน ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะมีการประชุมร่วมกันในการกำหนดการทำงานกันอีกครั้ง หลายเงื่อนปมอันเป็นเหตุในการสูญเสีย พลตำรวจโท ปัญญา ยังต้องถูกตั้งคำถามต่อไป และข้อเท็จจริงนั้นอยู่ในครอบครัวของ พลตำรวจโท ปัญญา แต่การสูญเสียนายตำรวจฝีมือดีคนหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินับเป็นเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด วินาทีนี้ ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว โดยเฉพาะบุตรสาว ที่ต้องเผชิญความโศกเศร้า มา ณ ที่นี้