สาวอุดรฯ ร้องถูก ปู่ฤาษี และเมีย ตุ๋น! แอบอ้างเบื้องสูง และอ้างว่าทำงานราชการลับ รู้จักผู้ใหญ่ สามารถเคลียร์คดีมรดกได้

วันที่ 1 ก.พ. 2566 เวลา 07:27 น.

สาวอุดรฯ ร้องถูก ปู่ฤาษี และเมีย ตุ๋น! แอบอ้างเบื้องสูง และอ้างว่าทำงานราชการลับ รู้จักผู้ใหญ่ สามารถเคลียร์คดีมรดกได้ สาวอุดรฯหลงเชื่อ โอนเงินค่าดำเนินการให้สูญ 3 แสน จากกรณี นางศิริพรประภา อายุ 45 ปี ชาว จ.อุดรธานี และชาวบ้านนับสิบคน เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ ขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากโดนนายวีระยุทธ หรือตั้ม อายุ 39 ปี ชาวบ้านหนองเขื่อนฟ้า จ.อุดรธานี ต้มตุ๋น โดยแอบอ้างตนเป็น "ปู่ฤาษีอุดร" หรือ “ฤาษีตั้ม” ซึ่งเป็นฤาษีลวงโลก แอบอ้างเบื้องสูง นายทหาร ข้าราชการ ตุ๋นเงินนับแสน ทั้งหลอกขายเข็มที่ระลึกจากในวัง อ้าง กอ.รมน. ลงนะหน้าทอง หลอกรับเงินบริจาคกฐิน แต่อมเงิน ไม่นำถวายวัด พอแจ้งความดำเนินคดี คดีกลับไม่คืบนั้น ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางศิริพรประภา ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนรู้จักนายวีระยุทธ ที่พัทยาในฐานนะปู่ฤาษีอุดร หรือฤาษีตั้ม มากว่า 10 ปี ถือเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ และเมื่อปี 2563  หรือ 3 ปีก่อน สามีชาวเนเธอร์แลนด์เสียชีวิต และมีปัญหาเรื่องมรดก 4 แปลง เป็นที่ดิน 50-60 ไร่ที่สามีซื้อไว้เป็นชื่อตน และทำสัญญาเช่าหลายสิบปี ตนจึงแต่งตั้งทนายความยื่นเป็นผู้จัดการมรดก ตนเล่าให้ปู่ฤาษีอุดรฟัง เดือนกันยายน ปู่ฤาษีอุดรได้มาหาตนอ้างว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งนายทหารยศ เสธ. สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องมรดกได้ โดยมีรูปภาพมาให้ดูด้วย และยังอ้างทำงานที่ กอ.รมน. ทำงานราชการลับ  และแอบอ้างเบื้องสูงเป็นโหรในวัง ทำคดีแค่ 3 เดือนจบ ได้โฉนดแน่นอน ด้วยความเชื่อใจและอยากให้เรื่องมรดกจบโดยเร็ว เดือนสิงหาคม ปี 2563 จึงได้โอนเงินไปให้ปู่ฤาษีอุดรผ่านบัญชีภรรยา  1.5  แสนบาท เป็นค่าดำเนินการช่วยเหลือ แต่ก็ได้ขอเพิ่มอีก จึงได้นำรถยนต์ รถไถ และที่ดินไปจำนอง เดือนกันยายน 2563 ได้โอนเงินไปให้ภรรยาปู่ฤาษีอุดรอีก 1 แสนกว่าบาท รวมแล้วประมาณ 3 แสนบาท  ปู่ฤาษีอุดรพาพวกมาอยู่มากินที่บ้าน ตนก็ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด  จะพาไปทำบุญที่ไหนตนก็ไป แต่หลังจากโอนเงินให้ปู่ฤาษีอุดรและภรรยาแล้ว ตนก็ได้ทวงถามความคืบหน้าว่าผู้หลักผู้ใหญ่จัดการเรื่องมรดกให้หรือยัง ฤาษีอุดรก็มักจะอ้างว่ากำลังประชุมกับผู้หลักผู้ใหญ่ ดำเนินเรื่องที่ดินให้ พอสอบถามหนักเข้าก็ไม่รับสาย ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ ตนแน่ใจว่าถูกหลอกแน่นอน จึงไปแจ้งความที่ สภ.ศรีธาตุ  เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกา2563  แต่คดีไม่คืบหน้าอีก โดยจ้างว่าปู่ฤาษีอุดร มีนายตำรวจยศ พ.ต.อ.อยู่เบื้องหลัง  จึงมาร้องศูนย์ดำรงธรรม นอกจากจะหลอกว่าจะช่วยตนเรื่องคดีมรดก ยังไปหลอกว่าทำงานอยู่ กอ.รมน. ทำงานสายลับ และเป็นโหรหลวงในวัง นำเข็มกลัดมาจำหน่าย อ้างว่าเป็นเข็มกลัดที่ระลึกในวัง ราคาเข็มละ 3,000 บาท จะขายให้ตน 30  อัน ไปขายให้ภรรยาชาวต่างชาติ  แต่ตนช่วยซื้อแค่ 2 อันเท่านั้น นอกจากนี้ยังหลอกเอาเงินกฐินวัดไปหลายแสน อ้างเป็นร่างทรง  ร.5 ไปหลอกชาวบ้าน ซึ่งมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อหลายราย และมักจะนำซองกฐิน ผ้าป่ามาให้ตนแจกนับพันซอง  ซึ่งรวมเงินที่ตนโดนนายวีระยุทธ หรือปู่ฤษีอุดร หรือฤาษีตั้ม หลอกลวงไปประมาณ 1 ล้านบาท ต่อมาผู้สื่อข่าวประสานไปยังชลธิดา เมืองทา อายุ 59 ปี  กำนันตำบลบ้านตาด  เดินทางไปที่สำนักปู่ฤาษีอุดร คุ้มหนองเขื่อนฟ้า บ้านตาด หมู่ 14  ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พบเป็นเป็นสำนักร้าง สร้างด้วยไม้ยกพื้นสูง 1 เมตร มุงด้วยสังกะสี รอบสำนักมีรูปปั้นพระพิฆเนตร พระพรหม แม่พระธรณีบีบมวยผม และฐานคอนกรีตเตรียมปั้นพญานาค และเสาโครงสร้างอาคาร 12 ต้น  ในพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน ปล่อยให้รกร้างไม่มีผู้อยู่อาศัย นางชลธิดา กำนันตำบลบ้านตาด เล่าว่า เมื่อ 3 ปี ที่ผ่าน ได้มีหนังสือจากสำนักฤาษีเชิญร่วมงานพิธีภายในสำนักฤาษีแห่งนี้ แต่ตนไม่ได้มาร่วมงาน เพราะไม่เชื่อในเรื่องฤาษี และไม่เคยเข้ามาตรวจสอบ มีแต่ชาวบ้านพูดให้ฟัง พอมาวันนี้ดูจากสภาพคงเลิกไปนานแล้ว ผู้ใหญ่บ้านรายงานว่า ปู่ฤาษีอุดร หรือฤาษีตั้ม เป็นคนในพื้นที่หมู่บ้านนี้ อยากฝากชาวบ้าน ให้ไตร่ตรองให้ยึดหลักธรรมพระพุทธศาสนา  อิทธิฤทธิ์ของฤาษี ไม่มีจริงในปัจจุบันนี้  นายสละ ผาบจันดา อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 ต.บ้านตาด เล่าว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานฤาษี เคยเชิญตนมาร่วมกิจกรรม แต่ไม่เคยเข้ามาดู มีแต่รถผ่านเท่านั้น จากสภาพที่เข้ามาดูในวันนี้ อยู่ติดกับไร่สวนมันสำปะหลัง  ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาหาฤาษีที่สำนักแห่งนี้จะเป็นคนต่างพื้นที่ ซึ่งจะเป็นคนสี แต่ก็ไม่ทราบว่า เป็นข้าราชการจากหน่วยงานไหน ตำแหน่งอะไร นางรัตนา อายุ 63 ปี ป้าปู่ฤาษีอุดร หรือฤาษีตั้ม เผยว่า ฤๅษีตั้มเป็นหลานของตน มาขอสร้างสำนักฤาษีได้ 1 ปี ในช่วงที่ตั้งสำนักนั้น คนมียศ มีสี มาหาอยู่เรื่อยๆ เป็นพ่อของนายทหารยศ เสธ และเสธ อ้างว่ามาจากวัง ซึ่งตนกับชาวบ้านก็ยังได้ช่วยเหลือในการทำสำนัก ถ้าทำไปในทางที่ดีตนก็จะเอาที่ดินนี้ให้ แต่ไม่รู้ว่าไปทางไหนถึงไปในทางที่ไม่ดี ตนก็หมดเงินที่หลานหลอกไปเกือบสามแสน เพราะหลานเอาไปลงทุนมาทำสำนักฤาษี  พอดูแล้วว่าเป็นไปในทางที่ไม่ดีตนเลยไล่หนีไป 3 ปีแล้ว มีชาวบ้านมาหาก็จะให้ทำพิธีให้หายจากอาการป่วย  ส่วนในเรื่องเสริมดวงก็มีบ้าง แต่มาทราบว่าไปเก็บเงิน 30,000 บาท กับชาวบ้านอ้างว่าจะช่วยให้เป็นนายสิบทหาร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็น มีผู้เสียหายกว่า 10 คน  ตนจึงเห็นท่าไม่ดีเลยไล่หนีไป ส่วนสิ่งปลูกสร้างนั้นก็เป็นเงินของตนกับชาวบ้านที่ศรัทธาที่ลงทุนไปให้ ตนก็ไม่อยากฝากอะไรถึงฤาษีตั้ม และไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งนั้นสิ่งที่เสียไปแล้วก็ให้แล้วไป ด้านนางวารณี อายุ 55 ปี แม่ปู่ฤาษีอุดร เล่าว่า ลูกบวชเณรตั้งแต่จบ ป.6  และบวชพระ รวม 20 ปี ต่อมาก็มาเป็นฤาษี  ตนไม่คิดว่าลูกจะมาเป็นฤาษี  รู้แต่ว่าลูกชอบ  และมาสร้างสำนักอยู่ที่บ้าน  แล้วก็ไปอยู่ที่อื่น ขณะเป็นฤาษีก็มีภรรยาและลูก แต่ภรรยาก็หนีไปทำงานต่างประเทศ ตนไม่รู้เรื่องที่ไปหลอกเงินชาวต่างชาติ อยากให้ลูกมาคุยกับผู้เสียหาย ซึ่งทราบว่าลูกจะมาที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.ศรีธาตุ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ด้าน พ.ต.ท.มนตรี  แก้วปัญญา รอง ผกก.สอบสวน สภ.ศรีธาตุ เปิดเผยว่า ได้เชิญผู้เสียหายมาสอบสวนปากคำ 2 ครั้ง แต่อ้างว่าติดภารกิจ เกี่ยวกับคดีมรดก  ซึ่งตำรวจจะได้เร่งรัดสอบสวนปากคำผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และจะออกหมายเรียกนายวีระยุทธ หรือปู่ฤาษีอุดร หรือฤาษีตั้ม มาพบพนักงานสอบสวน หากไม่มา 2 ครั้ง ก็จะดำเนินการขออนุมัติศาลออกหมายจับข้อหา “ฉ้อโกง” ต่อไป