ลวงขายรถ จยย. จ่ายเงินรับรถ ถูกซ้อนแผนปล้น พลเมืองดีแจ้งตำรวจจับทันควัน 2 คน พร้อมปืน หนีไปอีก 2 คน เร่งล่า
วันที่ 29 ม.ค. 2566 เวลา 17:09 น.
วันนี้ (29 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.ฐาปนพงษ์ พึ่งมี สว.จร. สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ถนนติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานกำลังจราจรเร่งตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบคนร้ายเป็นชายจำนวน 4 คน กำลังขึ้นรถจักรยานยนต์เตรียมหลบหนี จึงเข้าจับกุมไว้ได้ 2 คน ทราบชื่อ คือ นายประสงค์ ศรีสม อายุ 29 ปี ชาว จ.ปทุมธานี และ นายศุภวิชญ์ ชื่นสนธิ์ อายุ 20 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 และอาวุธปืนออโตเมติกขนาด .38 รวม 2 กระบอก พร้อมเงินสดจำนวน 45,000 บาท ที่ซุกซ่อนอยู่ในขากางเกงที่พับปลายขาปิดทับไว้ ส่วนอีก 2 คนที่หลบหนีไปขณะนี้ทราบชื่อแล้ว คือ โอ๊ค กับ นายพีท โดยมี นายประสาน เอี่ยมเที่ยง อายุ 41 ปี เป็นผู้เสียหายรอให้การ พร้อมกับหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ขณะถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ โดยผู้เสียหายได้ตะโกนร้องให้ชาวบ้านช่วยจับคนร้าย พร้อมปากตะโกนขอความช่วยเหลือว่าตนเองถูกปล้น ซึ่งหนึ่งในคนร้ายได้ชักปืนขึ้นพยายามขู่ และอีกคนพยายามได้ชัดมีดดาบยาวถือข่มขู่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและสายตรวจมาจับกุมตัวไว้ได้ จากการสอบถาม นายประสาน บอกว่า ได้ติดต่อขอซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 5ขญ 9348 กรุงเทพมหานคร จากนายศุภวิชญ์ ในราคา 45,000 บาท ที่ประกาศขายในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยนัดมาส่งมอบรถกับที่จุดเกิดเหตุ แต่พอจ่ายเงินตามยอดที่ตกลงกันให้นายศุภวิชญ์ไปแล้ว แต่ นายศุภวิชญ์กลับเปลี่ยนใจบอกไม่ขาย จากนั้นนายศุภวิชญ์กับพวกอีก 3 คน ชักปืนคนละกระบอกมาจี้ที่ศีรษะบังคับไม่ให้ขัดขืน ก่อนที่คนร้ายทั้ง 4 คนจะเดินถอยหลังไปขึ้นรถจักรยานยนต์เตรียมหลบหนี จึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ กระทั่งมีพลเมืองดีโทรแจ้งตำรวจมาจับกุมตัวนายประสานกับนายศุภวิชญ์ไว้ได้ทันควัน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันปล้นทรัพย์ 2.มีและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดคัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.ท.บัญญพนต์ แก้วปรีชากร พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อขยายผลและดำเนินคดีต่อไป