ศาลแพ่งสั่ง ธนาคารดัง-ลูกสาวอาม่าฮวย ชดใช้ 207 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย คดีปลอมเอกสาร

วันที่ 19 ม.ค. 2566 เวลา 18:50 น.

อาม่าฮวย ชนะคดี! ศาลแพ่งสั่ง ธนาคารดัง-ลูกสาว ชดใช้ 207 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเงินแล้วเสร็จ กรณีพวกจำเลยร่วมกันปลอมลายเซ็นเบิกถอนเงิน จากกรณีที่อาม่าฮวย พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องลูกสาวต่อศาลแพ่ง กรณีเปลี่ยนแปลงสิทธิ์การเบิกถอนเงินในบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนอนป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล สูญเงินในบัญชีไปกว่า 350 ล้านบาท โดยวันนี้ (19 ม.ค.66) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้เดินทางไปที่ศาลแพ่งพระโขนง เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่อาม่าฮวย เป็นโจทก์ฟ้องธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง และพนักงานของธนาคาร เป็นจำเลยที่ 1-5 และนางมาวดี บุตรคนที่ 2 ของนางฮวย เป็นจำเลยที่ 6 เรียกเงินคืน จำนวน 350,357,168.92 บาท ซึ่งคดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาของศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ 3228/2562ฯ ที่ศาลเคยตัดสินจำคุกนางมาวดี 20 ปี ฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม และลักทรัพย์  โดยวันนี้ศาลได้พิพากษาให้ธนาคารดังกล่าว พร้อมด้วยรองผู้จัดการสาขา,พนักงานธนาคาร และนางมาวดี ชดใช้เงินจำนวน 207 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย นายอนันต์ชัย ทนายความ เปิดเผยว่า ในวันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาให้ธนาคารแห่งหนึ่ง ชำระเงิน 44,645,676.82 บาท พร้อมดอกเบี้ยจากเงินต้น 33,668,516 บาท ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยนับจากวันฟ้อง (19 พ.ย. 62) จนถึงวันที่ 10 เม.ย.64 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี โดยนับจากวันฟ้องเช่นกัน โดยนับจากวันที่ 11 เม.ย.64 จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากนี้ ยังให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 117,097,573.05 บาท พร้อมดอกเบี้ยจากเงินต้น 82,176,281.32 บาท ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยนับจากวันฟ้อง (19 พ.ย. 62) จนถึงวันที่ 10 เม.ย.64 และชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เม.ย.64 อีกทั้งยังให้จำเลยที่ 4 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และให้จำเลยที่ 6 ร่วมกับจำเลยที่ 4 ชำระหนี้ข้างต้นจำนวน 34,881,691.72 บาท พร้อมดอกเบี้ยจากเงินต้น จำนวน 82,176,281.32 บาท ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยนับจากวันฟ้อง (19 พ.ย. 62) จนถึงวันที่ 10 เม.ย.64 พร้อมทั้งให้ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี โดยนับจากวันที่ 11 เม.ย.64 จนกว่าจะชำระเสร็จ สำหรับดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 11 เม.ย.64 เป็นต้นไป หากมีพระราชกฤษฎีกาปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ก็ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับเปลี่ยนไปบวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินร้อยละ 7.5 ต่อปีตามขอ สำหรับค่าธรรมเนียมศาลที่โจทก์ได้รับยกเว้นนั้น ให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 6 ร่วมกันนำมาชำระต่อศาลในนามของโจทก์ และให้ร่วมกันใช้ค่าทนายความ รวม 1 แสนบาท แก่โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 3 และ 5 ยกฟ้อง สำหรับคดีนี้ ศาลได้พิเคราะห์จากการกระทำของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 6 ได้กระทำการละเมิดสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการเบิกถอนเงิน โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากอาม่าฮวยล้มป่วย โดยจากการตรวจสอบพบว่า นางมาวดี ร่วมกับพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 2 คน เปลี่ยนแปลง ปลอมแปลง ลายมือชื่ออาม่าฮวย เพื่อมอบอำนาจให้นางมาวดี มีสิทธิ์เบิกถอนเงินฝากกระแสรายวัน และกองทุนบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินกองทุน อีกทั้งยังพบว่ามีการถอนเงินจากบัญชี และสั่งจ่ายเช็ค รวมถึงถอนเงินจากหน่วยลงทุน เข้าไปที่บัญชีของตัวเอง ทั้งนี้ นายอนันต์ชัย ยังฝากถึงธนาคารทุกแห่งให้ดูคดีนี้ไว้เป็นตัวอย่าง อย่าไปไว้ใจพนักงานของตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำรอยขึ้นมาอีก