เปิดวงจรปิด ล่าโจรแสบขี่ จยย.ประกบกระชากกระเป๋าสาวเชียร์เบียร์ ผวาหนัก
วันที่ 19 ม.ค. 2566 เวลา 15:55 น.
เปิดวงจรปิด ล่าโจรแสบขี่ จยย.ประกบ กระชากกระเป๋าสาวเชียร์เบียร์ ผวาหนัก ถึงขั้นต้องลาออกจากงาน เปิดวงจรปิด ล่าโจรแสบขี่ จยย.กระชากกระเป๋าสาวเชียร์เบียร์ (19 มกราคม 2566 ) ขณะที่ พ.ต.ต.วัฒพงศ์ จำนงอุดม สว. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มี น.ส.อรพรรณ แก้วหนูนวล อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 5 บ้านกกสะทอน ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี แจ้งว่า โดนคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ ที่ถนนบ้านคำกลิ้ง-บ้านตาด บริเวณบ้านไร่ ซอย 4. หมู่ 3 ต.บ้านจั่น เวลาประมาณ 00.30 น.เมื่อคืนนี้ น.ส.อรพรรณ ให้การว่า ตนทำงานเชียร์เบียร์ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังเลิกงานเมื่อคืนนี้ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน 5895 อุดรธานี มุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากบ้านเพียง 2 กม. ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างสูง ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ แบบผู้ชาย สีดำ สวมหมวกไหมพรหม และหมวกกันน็อก เข้ามาประกบรถตน พร้อมกับสั่งให้ตนจอดรถ โดยไม่มีอาวุธ ตนกลัวคนร้ายถีบรถล้ม จึงจอดรถตามคนร้ายสั่ง ซึ่งคนร้ายได้เอื้อมมือมาปิดสวิตซ์แล้วดึงกุญแจรถไป พร้อมกับบอกให้ส่งกระเป๋าเงินให้ด้วยสำเนียงอีสาน แต่ตนไม่ยอมส่งให้ คนร้ายจึงกระชากกระเป๋าสะพายจนสายขาดหลุดติดมือไป จากนั้นคนร้ายก็ได้ขี่รถหนีกลับไปทางตัวเมืองอุดรธานี ตนกลัวมาก เพราะคนร้ายเอากุญแจรถไปด้วย ในกระเป๋าสะพายมีเงินสด 200 บาท และสายชาร์ตมือถือไอโฟน ชุดทำงาน โชคดีที่ตนซ่อนมือถือไว้ ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่ตำรวจไม่ออกมาที่เกิดเหตุ และโทรกลับมาบอกให้ตนไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ตนกลัวไม่ย้อนกลับเข้าไปในเมืองอีก ตนจึงโทรศัพท์หาพ่อให้มารับกลับบ้าน พอตื่นเช้าจึงมาแจ้งตำรวจเพื่อนำใบแจ้งความไปลาออกจากงาน ไม่ทำงานต่อเพราะกลัวมาก และเสียดายกุญแจรถจักรยานยนต์ อยากให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายให้ด้วย เพราะต้องการกุญแจรถจักรยานยนต์คืนให้ด้วย” พ.ต.ต.วัฒพงศ์ จำนงอุดม สว. (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี จึงประสานตำรวจสืบสวน ออกไปตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน พบว่าช่วงเวลา 00.28 น.ของวันที่ 19 มกราคม ผู้เสียหายได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยขี่ผ่านร้านขายของชำ ซึ่งพบคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังผู้เสียหายไป ไม่นานคนร้ายก็ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับไปด้วยความเร็ว ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป