รถกระบะบรรทุกคนงานเต็มคัน พุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกอ้อยที่เลี้ยวตัดหน้ากะทันหัน
วันที่ 4 ม.ค. 2566 เวลา 09:42 น.
เจ็บระนาว รถกระบะบรรทุกคนงานเต็มคัน พุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกอ้อยที่เลี้ยวตัดหน้ากะทันหัน ส่งผลคนงานเสียชีวิตคาที่ 1 ราย บาดเจ็บอีก 14 ราย ส่วนรถพ่วงคู่กรณีขับหลบหนีหน้าตาเฉย ปล่อยคนเจ็บนอนเกลื่อนถนน เมื่อเวลา 05.59 นาฬิกา วันที่ 4 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะบรรทุกคนงานชนกับรถพ่วง 18 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายกาญจนบุรี-บ้านเก่า ช่วงบริเวณใกล้เคียงซุ้มประตูทางเข้าวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ บ้านพุประดู่ หมู่ 7 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานรถพยาบาลมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็ก สีขาว ติดคอกที่ด้านหลัง สภาพด้านหน้ามีร่องรอยการชนอย่างแรงจนพังยับเยิน จอดอยู่ริมถนน ด้านในรถ บริเวณเบาะที่นั่งคนขับ พบผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ถูกอัดติดอยู่ภายในเป็นหญิง 1 ราย เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากตัวรถ เพื่อส่งให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ที่บริเวณกระบะท้ายรถ พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่บนกระบะท้ายรถ ส่วนบนพื้นถนนยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีกนับสิบราย นอนร้องโอดโอยรอความช่วยเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เบื้องต้น และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษาช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 14 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 4 คน และเด็กอีก 3 คน ผุ้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ ถูกแรงกระแทกและกระเด็นตกจากตัวรถ ศรีษะแตก แขนและขาหักแทบทุกคน สอบถาม หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่า กลุ่มผุ้ได้รับบาดเจ็บ ทำงานเป็นคนงานไร่ผักชี ซึ่งออกเดินทางมาจากอำเภอหนองปรือ เพื่อจะไปทำงานในไร่ผักชีที่ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่า รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกอ้อยที่ขับอยู่เลนตรงข้าม ได้เลี้ยวข้ามฝั่งถนนเพื่อจะเข้าซุ้มประตูวัดอย่างกะทันหัน ทำให้นางสาวกิ่งกาญจน์ สระทองหน อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ เบรกรถไม่ทัน จึงพุ่งชนเข้าที่ส่วนพ่วงท้ายของรถพ่วงเข้าอย่างจัง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนรถพ่วง 18 ล้อ คู่กรณี หลังเกิดเหตุ ไม่ได้จอดรถลงมาให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด กลับขับรถหลบหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้ผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรอความช่วยเหลืออยู่บนพื้นถนนอย่างไม่ใยดี ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันออกติดตามหารถพ่วง 18 ล้อ คู่กรณีอย่างเต็มที่ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด