แม่กอดเสื้อฮีโร่โอมร่ำไห้ ภูมิใจที่ลูกเสียชีวิตในหน้าที่
วันที่ 2 ม.ค. 2566 เวลา 16:39 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้เราต้องสูญเสียบุคคลมากความสามารถ คุณโอม เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ฮีโรที่ลงไปช่วยดำน้ำหาร่างน้องเปรี้ยว ที่จมน้ำเสียชีวิตในทะเลหาดชลาทัศน์ จังหวัดสงขลา จนตนเองหมดแรงเสียชีวิต แม่ของฮีโร่ร่ำไห้กอดชุดทำงานลูก แต่ก็ภูมิใจลูกชายเสียชีวิตในหน้าที่ จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหารเรือ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ได้ร่วมกันค้นหาร่างของน้องเปรี้ยว อายุ 10 ขวบ ซึ่งได้จมน้ำเสียชีวิต ที่ทะเลหาดชลาทัศน์ จนทำให้นายสถาพร มิ่งสูง อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดเสียชีวิตจากการน็อกหมดสติในน้ำ ส่วนร่างน้องเปรี้ยวที่จมน้ำ ศพได้ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยชายฝั่งยังจุดที่น้องจมน้ำลงไป นายจักรกฤษณ์ รัตนคำ หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ น้องเปรี้ยว จมน้ำเสียชีวิตนั้น ได้มีพลเมืองดีลงไปช่วยเหลือในช่วงแรกก่อนแล้ว แต่ทนแรงของคลื่นทะเลไม่ได้ จากนั้นตนได้รับการประสานจากศูนย์นเรนทรสงขลาให้เร่งเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นที่เกิดเหตุตนพร้อมด้วย นายสถาพร และเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดรวมเป็น 4 คน ไปถึงที่เกิดเหตุพบมีเจ้าหน้าที่อีกชุดกำลังขี่เจ็ตสกีวนหาร่างน้องเปรี้ยว ตามรอบ ๆ จุดที่น้องเปรี้ยวจมหายไป จากนั้นตนก็ได้ประชุมวางแผนค้นหาโดยการตั้งแถวเป็นกระดานเดินลงไปในทะเล หลังเดินลงในทะเลค้นหาร่างด้วยทะเลมีคลื่นสูงและแรง ตนจึงได้ยกเลิกค้นหาร่างชั่วคราวและสั่งให้ทุกคนเดินขึ้นไปบนฝั่ง ขณะที่ตนและเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดอีก 2 คน จะเดินถึงฝั่ง ตนเองได้หันหลังไปดูก็พบว่า นายสถาพร ยังอยู่ในทะเล อยู่ในสภาพร่างกายเริ่มอ่อนแรง พร้อมกับคลื่นทะเลซัดร่างไปมาอย่างรุนแรง ตนและเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดได้รีบว่ายน้ำลงไปช่วยเหลือนายสถาพร ทันที หลังคว้าตัวนายสถาพร ขึ้นมาบนฝั่งได้ในสภาพหมดสติ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้พยายามปั๊มหัวใจนายสถาพร ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกชีพจรก็ได้เต้นขึ้นมาอีกรอบและก็ดับลงไป ก่อนจะปั๊มหัวใจครั้งที่ 2 ชีพจรก็เต้นขึ้นมาอีกครั้งแต่แผ่วเบา จากนั้นหลังเข้าห้องฉุกเฉินทางหมอและพยาบาลก็ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่เป็นผลทำให้นายสถาพรเสียชีวิตไปอย่างสงบในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น คาดว่าน่าจะมาจากสภาพร่างกายของนายสถาพร พักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากนายสถาพร เป็นคนขยันทำงาน 2 ที่ ในช่วงเช้าและกลางคืน ต่อมาช่วงหลัง ๆ ร่างกายของนายสถาพรมีอาการเจ็บป่วยและมีอาการบาดเจ็บที่ขา แต่ด้วยหน้าที่การทำงานนายสถาพรจะนึกถึงช่วยเหลือคนอื่นก่อนเสมอ ทางด้าน นายทศพร บุญโญ หรือ ต่อ อายุ 33 ปี เป็นเพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า โอมเป็นคนที่นิสัยดี ขี้เล่น ชอบช่วยเหลือคนอื่นและเป็นที่รักใคร่ของเพื่อน ๆ ช่วงคืนวันที่ 30 ธันวาคม ก่อนเกิดเหตุ 1 วันที่ โอมมีอาการซึมเศร้า ดูไม่สนุกกับงานและนั่งเงียบ ๆ จากนั้นก็ได้มาบ่นกับเพื่อน ๆ ว่าสภาพร่างกายตนเองรู้สึกมีอาการเจ็บป่วยเสียงแหบ โดยเฉพาะบริเวณข้อเท้าซ้ายลงไปจนถึงนิ้วหัวแม่โป้งซึ่งมีอาการบวม โดยไม่ทราบสาเหตุและบอกว่าจะไปหาหมอ จากนั้นตนเองก็พูดหยอกล้อโอมเล่นว่า ถ้ามึงตายกูจะเป็นเจ้าภาพจัดสวดศพให้คืนแรก เพื่อนคนที่ 2 ก็พูดเสริมขึ้นมาว่า กูให้หมูแกงงาน 1 ตัว เพื่อนคนที่ 3 ก็พูดว่า กูจะเป็นเจ้าภาพสวดศพคืนที่ 2 หลังทั้งหมดพูดจบทุกคนก็ต่างหัวเราะใส่กันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะแยกย้ายกันทำงาน ต่อมาตนมาทราบข่าวช่วงบ่ายสามโมงตนได้รับทราบข่าวจากเพื่อน ๆ ที่ทำงานไลฟ์การ์ดแจ้งลงในกลุ่มไลน์ว่า นายสถาพร เกิดเหตุจมน้ำหมดสติตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ตนและเพื่อน ๆ จึงรีบเดินทางไปโรงพยาบาลจากนั้นหมอก็เดินออกมาบอกว่า โอม เสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนและเพื่อน ๆ ต่างเสียใจเป็นอย่างมาก เพื่อน ๆ ขอสดุดีให้โอมเป็นฮีโร ที่ยอมเสียสละตัวเองเข้าช่วยเหลือคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ร่างกายตนเองไม่ไหวและยังเจ็บป่วยอยู่ ตนและเพื่อนทั้งหมดจะเก็บความทรงจำและเรื่องราวดี ๆ ตลอดไป ด้านนายกเทศมนตรีนครสงขลา เตรียมประชุมขั้นตอนในการช่วยเหลือเยียวยากับทางครอบครัวของนายสถาพร ซึ่งมีภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ เบื้องต้นแล้ว ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบ้านพักส่วนตัวของนายสถาพร เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ที่เสียชีวิต ซึ่งได้อาศัยอยู่กับแม่ของตัวเอง 2 คน ส่วนภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ อาศัยอยู่พื้นที่อำเภอรัตภูมิ และนายสถาพรจะเดินทางไปบ้านภรรยาในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง นางอักษราภรณ์ มิ่งสุข แม่ของนายสถาพร เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนมีลูกชายและลูกสาว 2 คน โดยนายสถาพร เป็นพี่คนโต และช่วงเกิดเหตุตนเองทราบข่าวจากลูกสะใภ้ โทรมาบอกว่าลูกชายของตนเกิดเหตุจมน้ำ และนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลา และถึงมือหมอปลอดภัยแล้ว หลังตนเดินทางไปถึงโรงพยาบาลนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินได้มีหมอเดินออกมาบอกว่า ลูกชายของตนได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนถึงกับช็อกกับเหตุการณ์ ส่วนน้าชายที่รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินพร้อมกับตนถึงกับลงไปนอนดิ้นกองอยู่กับพื้นโรงพยาบาล ซึ่งทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นตนก็ได้เดินเข้าไปที่เตียงลูกชาย ซึ่งมีผ้าคลุมห่มร่างลูกชายไว้ ก่อนที่ตนจะเปิดผ้าพร้อมกับจูบลงไปที่หน้าผากและบอกกับลูกว่า ชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นลูกชายของแม่อีก ตนก็ภูมิใจที่ลูกชายของตนเสียชีวิตในหน้าที่ ซึ่งหลังเกิดเหตุตอนนี้ทางนายกเทศบาลนครสงขลา ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นมาแล้ว 20,000 บาท เพื่อนำมาจัดงานศพให้กับลูกชายของตน โดยจัดงานที่วัดหัวป้อมใน ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา ส่วนเรื่องเยียวยากับทางภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ ของลูกชายตนนั้น ทางเทศบาลจะดำเนินการประชุมรายละเอียดการเยียวยาอีกครั้งหลังจัดงานศพของลูกชาย อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของนายสถาพรมีกำหนดจะนำศพมาจัดพิธีตามหลักศาสนาในวันอังคารที่ 3 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. พิธีรดน้ำศพ ณ วัดหัวป้อมใน ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา