ชาวบ้านแห่ดู “เจ้าข้าวเหนียว ควายเผือกแคระหนึ่งเดียวในไทย ราคา 3.5 ล้านบาท

วันที่ 23 ธ.ค. 2565 เวลา 16:09 น.

ชาวบ้านแห่ดู”เจ้าข้าวเหนียว ควายเผือกแคระหนี่งเดียวในไทย ราคา 3.5 ล้านบาท สร้างสีสันในงาน "บุญคูณลานสืบสานประเพณีของดีเมืองเชียงยืน" จ.มหาสารคาม  ประจำปี 2565 ชาวบ้านแห่ดู”ควายเผือกแคระ” หนี่งเดียวในไทย ( 23 ธ.ค.65 )  ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีบุญคูณลานสืบสานของดีเมืองเชียงยืน ประจำปี 2565 เพื่อเป็นการฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี (บุญเดือนยี่ หรือ บุญคูณลาน )เป็นหนึ่งในฮีตสิบสอง ของชาวอีสาน ชึ่งมีการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีมาอย่างยาวและอันดีงามให้ดำรงอยู่ และส่งเสริมและพัฒนาผลิตผล ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและการประกอบสัมมาอาชีพของคน กลุ่มคนในพื้นที่ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดขบวนแห่ของดีจากทุกตำบล การออกร้านนิทรรศการของตำบล การแข่งขันและการประกวดผลิตผลทางการเกษตร การประกวดสาวงามเชียงยืน และการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของดีอำเภอเชียงยืน ที่ประชาชนฮือฮา คือ ในงานมีการแสดงโชว์พ่อพันธุ์ควายเผือกแคระ ที่มีตัวเดียวในประเทศไทย “เจ้าข้าวเหนียว” มีความสูง 108 ซม.มีคนมาให้ราคากว่า 3.5 ล้านบาท อายุ 8 ปี จากเอสเคฟาร์ม เชียงยืน ทางฟาร์มยังขายลูกควายแคระดำในราคาตัวละ 1.5 แสนบาท ลูกควายเผือกแคระ ตัวละ 2.5 แสนบาท  และชมความน่ารักของควายเผือกแคระที่นำมาแสดงโชว์ ให้คลานเข่า ยิ้ม สวัสดี เป็นที่ถูกอกถูกใจ พร้อมลูบคลำ เพื่อความเป็นมงคล เนื่องจากคนไทยให้ความสำคัญกับควายไทย แถมเป็นควายที่หาดูได้ยากอีกด้วย นายสมพร ควรคำคง นายอำเภอเชียงยืน เปิดเผยว่า อำเภอเชียงยืน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม มีของดีมากมายไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น หลวงปู่ใหญ่ วัดพุทธประดิษฐ์ ในด้านผลิตผลและสินค้า เช่น เสื่อกก ผ้าดำ ปลาร้า ปลาส้ม นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์มากมายของกลุ่มแม่บ้าน/สตรี และกลุ่มอาชีพต่างๆ ตามโครงการพระราชดำริเศรษฐกิจแบบพอเพียง และโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์  ซึ่งพี่น้องประชาชนได้น้อมนำมามาเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ เสริมสร้างรายได้ เกิดผลผลิตที่มีคุณภาพขึ้นในตำบล หมู่บ้าน จนกลายเป็นของดีเมืองเชียงยืน โดยกำหนดการจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 20-26 ธันวาคม 2565   ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม