เปิดใจเจ้าของร้านเล้งแซ่บ เจ๊งยับขายงานบิ๊กเมาน์เท่น ลงทุน 2 แสนได้คืน 4 หมื่น

วันที่ 15 ธ.ค. 2565 เวลา 19:13 น.

เปิดใจเสี่ยต้น เจ้าของร้านเล้งแซ่บ ที่ขายในงานบิ๊กเมาน์เท่น ลงทุนไป 2 แสน เพราะเชื่อคำการันตีจากผู้จัด แต่หน้างานเละเทะ ไม่มีที่นั่งให้ลูกค้า ทำขายของไม่ได้ ขาดทุนยับได้เงินแค่ 4 หมื่นบาท แถมยังไม่ได้ค่ามัดจำคืน จากกรณีที่มีผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่า “เสี่ยต้น คนเดิม” ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวหลังจากที่ได้ไปขายอาหารภายในงานบิ๊กเมาน์เท่น ที่ลงทุนไปกว่า 2 แสน ไปทำการกู้มา เพราะเชื่อคำการันตีจากผู้จัด ยอมเสียต่าที่ 5 หมื่น แต่จบงาน จบชีวิต เพราะเจ๊ง ขาดทุนย่อยยับ เนื่องจากการจัดผังงาน ล่าสุด วันนี้ (15 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดเซฟวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับนายศุภกร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ และเป็นเจ้าของร้าน “ซุปเปอร์เล้งแซ่บ อร่อยม่อร้อง” นายศุภกร เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่โพสต์เรื่องดังกล่าว เนื่องจากเกิดความอัดอั้นหลังจากขายของในงานบิ๊กเมาน์เท่นเสร็จในคืนสุดท้าย ความเป็นมาของเรื่องนี้ คือ มีผู้อ้างว่าเป็นทีมจัดงานบิ๊กเมาน์เท่น มาคัดเลือกร้านค้าที่จะไปขายภายในงาน โดยมาสอบถามว่าร้านของตนเองสนใจที่จะไปขายไหม ในงานมีคนเข้าชมจำนวนมาก มากกว่า 1 แสนคน การันตีว่าแต่ละวันให้ตนเองมียอดเสิร์ฟ ไม่ต่ำกว่าวันละ 2,500 เสิร์ฟ รวม 2 วัน ก็จำนวน 5,000 เสิร์ฟ ตนเองจึงคำนวณแล้วว่า ต้องใช้เล้งกระดูกหมู หนัก 1 ตัน พริกธรรมดา หนัก 70 กก. , พริกขี้หนูสวน หนัก 30 กก. และวัตถุดิบต่างๆ อีกรวมมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท นายศุภกร บอกว่า ได้ถามแล้วว่ามีที่นั่งให้ลูกค้านั่งกินไหม ทางผู้จัดก็บอกว่ามีซุ้มกองฟางให้นั่งอยู่ ด้วยความที่ผู้จัดงานเป็นบริษัทค่ายเพลงใหญ่ มีชื่อเสียง และมีการการันตีจำนวนลูกค้าให้เช่นนี้ จึงตัดสินใจโอนเงินค่ามัดจำไปให้ในวันนั้น จำนวน 50,000 บาท แต่พอวันงานเห็นซุ้มกองฟางเล็กมาก ไม่น่าจะรองรับลูกค้าได้มากตามที่เขาการันตี เมื่อเปิดขายวันแรก ขายไม่ได้เลย เพราะลูกค้าไม่มีที่นั่ง วันต่อมาเลยต้องเปลี่ยนจากขายต้มเล้ง มาเป็นผัดกะเพราเล้งใส่กล่อง ให้ลูกค้าสามารถถือเดินไปรับประทานได้ แต่ก็ขายได้ไม่มากนัก การบริหารจัดการของผู้จัดงานเละเทะมาก แม้แต่น้ำเปล่า และน้ำแข็งที่ต้องเอามาแช่วัตถุดิบ ก็ไม่สามารถนำมาส่งให้ได้ เพราะไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้ามาภายในบริเวณงานเลย คนส่งน้ำ ส่งน้ำแข็ง ต้องใช้รถเข็นส่งแทน ซึ่งร้านมีอยู่จำนวนมากกว่า 120 ร้าน งอยู่ห่างไกลมาก กว่าร้านน้ำแข็งจะส่งให้ครบทุกร้านก็ทำให้ของสดมีกลิ่นแล้ว กว่าจะมีน้ำ เตรียมอุปกรณ์ต้มเล้งได้ ก็ช่วงกลางคืน ซึ่งคนก็ไม่นั่งกิน เพราะเตรียมไปดูดนตรี นายศุภกร บอกอีกว่า ตนเองต้องไปกู้เงินบัตรเครดิต นำทองไปจำนำ เพื่อจ่ายค่าเช่าที่ ค่าวัตถุดิบ ค่าคนงาน รวมเบ็ดเสร็จแล้ว ลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท แต่พอขายวันสุดท้าย มานับเงินได้เพียง 4 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น เป็นอันว่าขาดทุนย่อยยับ และที่สำคัญหลังเสร็จงาน ผู้จัดงานยังดีดพ่อค้า แม่ค้าที่ไปขายในงาน ออกจากกลุ่มไลน์หมดทุกคน โดยที่ยังไม่คืนเงินค่ามัดจำจำนวน 5,000 บาท ให้กับพ่อค้าแม่ค้าเลย จึงได้เกิดความอัดอั้นตันใจและออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าว