หนุ่มอดีตกู้ภัยคลั่งควงปืนบุกจี้ลูกสาวในห้องเรียนประชดเมียขอหย่า

หนุ่มอดีตกู้ภัยคลั่งควงปืนบุกจี้ลูกสาวในห้องเรียนประชดเมียขอหย่า

วันที่ 14 ธ.ค. 2565 เวลา 17:17 น.

วันนี้ (14 ธ.ค.65)  ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรนางรอง  จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ  และตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง  เข้าตรวจสอบ    พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผู้กำกับการ สภ.นางรอง  ได้นำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในโรงเรียนดังกล่าว  เมื่อไปถึงพบนายธวัชชัย หรือ ก้อง  (สงวนนามสกุล) เป็นอดีตกู้ภัยแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง  สวมเสื้อแขนยาวลายพราง อยู่ภายในห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/3 อาคาร 3  โดยมีท่าทางคลุ้มคลั่งพูดจาวกไปวนมา แสดงอาการคล้ายคนเมายาเสพติด และมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อยู่ภายในมือข้างซ้าย ซึ่งนายธวัชชัย  ได้นั่งประกบด้านข้างของ ด.ญ.กิ๊ฟ  (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ  ซึ่งเป็นลูกสาวของตัวเอง  ตำรวจเกรงว่าอาจจะก่อเหตุไม่คาดคิดหรือทำร้ายลูกสาวตัวเอง  จึงได้แบ่งกำลังร่วมกับครูในโรงเรียน    ทำการเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องไปยังพื้นที่ปลอดภัยตามแผนเผชิญเหตุ ที่เคยมีการซักซ้อมกับโรงเรียนมาแล้วก่อนหน้านี้  พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยเด็กนักเรียนด้วย กำลังอีกส่วนหนึ่งเข้าไปทำการเจรจากับนายธวัชชัย ที่กำลังคลุ้มคลั่งให้ปล่อยลูกสาวออกมา  จนกระทั่งสบโอกาสที่นายธวัชชัยเผลอ จึงได้บุกเข้าชาร์จจับกุมตัว   โดยจังหวะที่เข้าชาร์จนายธวัชชัย  ร้องไห้และพูดพร่ำพรรณนาตลอดเวลา และช่วงชุลมุนได้ยินเสียงปืนลั่น 1 นัดแต่เคราะห์ดีที่ไม่โดนใคร   จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แย่งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ออกจากมือนายธวัชชัย และเมื่อตรวจค้นตัว ก็พบกระสุนปืน ขนาด .38 อีกจำนวน 1 นัด  ด้วยจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน  จากนั้นได้นำตัวนายธวัชชัย  ไปที่ สภ.นางรอง  เพื่อทำการสอบปากคำ ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ  ขณะที่ตำรวจควบคุมตัวนายธวัชชัย   ไปที่โรงพักเพื่อทำการสอบปากคำเบื้องต้น นายธวัชชัย ก็ร้องไห้ตลอดเวลา  นายธวัชชัย อ้างว่าสาเหตุที่ก่อเหตุถือปืนบุกเข้าไปจี้ลูกสาว  เพราะเครียดที่เห็นภรรยาไปกับผู้ชายคนอื่น แล้วเมื่อวานภรรยาก็ยังเดินทางมาที่โรงพัก  เพื่อจะมาแจ้งความประสงค์กับตำรวจให้ช่วยลงบันทึกประจำวันให้ว่าต้องการจะหย่ากับตนเองอีก  ทำให้เกิดความไม่พอใจ  เพราะตัวเองยังรักและอยากใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา   ส่วนรอยแผลที่มือนายธวัชชัย  บอกว่า เมื่อวานทะเลาะกับภรรยา แล้วภรรยาหาว่าตนเองตบหน้า จึงใช้ปืนยิงใส่มือตัวเองเหมือนกับเป็นการลงโทษตัวเอง เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน , พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร , พกพาอาวุธปืนไปในสถานที่ราชการ และเสพสารเสพติด”   ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำโรงเรียน  เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นนายธวัชชัย ซึ่งเป็นผู้ปกครองได้ขี่รถ จยย. มาจอดที่หน้าโรงเรียน  เห็นว่าเป็นผู้ปกครองนักเรียนจึงเปิดประตูให้เข้าไป เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้มีแสดงอาการว่าจะคลุ้มคลั่ง  และไม่รู้ว่าพกอาวุธปืนมาด้วย มารู้อีกทีตอนที่ครูแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่โรงเรียนก็ตกใจ เมื่อตรวจสอบความเคลื่อนไวในเฟซบุ๊กของนายธวัชชัย  ผู้ก่อเหตุ พบว่าเมื่อ 5 วันก่อน ได้โพส์ตภาพตัวเองขณะอยู่คนเดียว  ขณะนอนเล่นกับลูกสาว และภาพที่ในมือถือปืนลักษณะเป็นปืนปากกา พร้อมระบุข้อความในลักษณะระบายความรู้สึกและขู่อาฆาตว่า  เช่น  “กูลูกผู้ชายพอ แต่กูเจอแบบนี้ มึงบอกกูไม่ต้อง ว่ากูไม่รู้ว่ามึงอยู่ไหน กูจะบอกให้คนอย่างกู ถ้าได้อาฆาตใครแล้วยากที่จะหนี  คนอย่างกูไปได้  มึงจะตายด้วยเนื้อมือกูแน่  แล้วคนอย่างกูไม่เคยขู่ใครกูไม่เคยทำใครก่อนมึงคนแรก พี่กล้ามากมายเอาเมียกู ถ้ากูไม่ฆ่ามึงตายไม่ใช่กูแล้วไอ้ลูกหมา , มึงจำได้ไหมในวันนั้นที่เจอกู วันนั้นกูสั่งสอนมึง กูบอกมึงให้เลิกกับเมียกูใช่ไหมมึงไม่เลิก กูกลับจากมุกดาหารก่อนในเมื่อมึงไม่เลิกมึงก็ตายไปเลย ,จะบอกไว้นะ กูชอบมา ไอ้พวกที่ชอบไปจีบเล่นเมียเขา คนยากกูไม่เคยวะ จีบเมียคนอื่นเขา แต่มึงมาจีบเมียกู มึงก็ระวังจะตายไม่รู้ตัวก็แล้วกันกูจะบอกมึงว่ามึงจะอยู่นางรองไม่ได้  กูเจอมึงในนางรองตรงไหนมึงขับรถทัวร์ก็ตามระหว่างตายไม่รู้ตัวกูเตือนมึงไว้ก่อนนะ มึงเจอกูแล้วใช่ไหมคราวนี้มึงได้ตายแน่”