หนุ่มสุดช้ำทุ่มเปย์แฟนสาวหมดเป็นแสน ถูกคบซ้อน เลิกกันก็ให้เอาเงินมาคืนด้วย

วันที่ 3 ธ.ค. 2565 เวลา 14:35 น.

หนุ่มสุดช้ำ ทุ่มเปย์แฟนสาวหมดเป็นแสน จำนำทองที่เตรียมเป็นของหมั้น กู้เงินให้เอาไปหมุนทำธุรกิจ รูดบัตรผ่อนแอร์ให้ สุดท้ายจับได้แอบคบซ้อน ขณะที่ฝ่ายหญิงโต้ไม่จริง คนเป็นแฟน เงินใช้กินอยู่ด้วยกัน เลิกกันแล้วมาทวงคืน   กรณีหนุ่มสุดช้ำ ทวงเงินแฟนเก่า เลิกกันก็ให้เอาเงินมาคืน วันนี้ (3 ธ.ค.65) หนุ่มบุรีรัมย์ สุดช้ำนำหลักฐานการสนทนา สลิปการโอนเงิน ตั๋วจำนำทองคำรูปพรรณ มาร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่าถูกแฟนสาวที่คบหาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตอนทำงานที่กรุงเทพฯ มานานกว่า 5 ปี หักหลัง แอบคบหาชายอื่น ทั้งที่เขารักและดูแลแฟนสาวเป็นอย่างดี เวลาที่ฝ่ายหญิงประสบปัญหาด้านการเงิน ทั้งขอและยืมก็โอนให้ เงินตัวเองไม่พอก็ไปหยิบยืมคนอื่นมาให้ และยังยอมใช้ชื่อตัวเองกู้ยืมเงินให้แฟนเอาไปหมุนทำธุรกิจส่วนตัว 10,000 บาท แต่ตัวเองต้องรับภาระส่งดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้เดือนละ 1,000 บาท เมื่อแฟนลาออกจากงานที่กรุงเทพฯ กลับไปอยู่บ้านที่ จ.ขอนแก่น เพื่อไปดูแลพ่อป่วย  ก็โทรมาบอกว่าเดือดร้อนต้องการเงินไปหมุนทำธุรกิจและรักษาพ่อป่วย ขอให้เอาทองหนัก 1 บาท ที่เตรียมไว้เป็นของหมั้นไปจำนำแล้วโอนเงินไปอีก 26,500 บาท ซึ่งตอนนี้ก็ยังต้องรับผิดชอบส่งดอกเบี้ย นอกจากนั้น แฟนยังใช้บัตรเงินสดที่เป็นชื่อตัวเองไปผ่อนดาวน์เครื่องปรับอากาศ เพื่อนำไปติดตั้งให้พ่อที่ป่วยอีก  ต่อมา ราวเดือน ต.ค.65 ตนเริ่มจับได้ว่าแฟนสาวแอบคบซ้อนชายคนอื่น อัปรูปคู่บอกรักกันโพส์ตลงในติ๊กต็อก คล้ายเปิดตัวว่าคบหากัน ตนโทรศัพท์ไปถามตอนแรกฝ่ายหญิงบ่ายเบี่ยงว่าไม่มีอะไร แต่จู่ๆก็ว่าหมดรักตนแล้ว  รู้สึกเสียใจมาก  เพราะที่ผ่านมา ทุ่มเทไปมาก ทั้งเงินให้ เงินยืม เงินกู้ ทองที่เอาไปจำนำ ค่าผ่อนดาวน์แอร์ ก็ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ตอนนี้ต้องแบกรับภาระหนี้สินคนเดียว จึงอยากฝากถึงอดีตแฟน หากจะไปคบหากับชายอื่น ก็ให้รับผิดชอบหนี้สินที่เกิดขึ้น จบกันด้วยดี    ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามอดีตแฟนสาวของหนุ่มบุรีรัมย์ ได้รับคำชี้แจงว่า รู้จักกับผู้ชายอีกคนในติ๊กต็อกจริง แค่คุยกันไม่มีอะไรมากกว่านั้น และเสียใจที่อดีตแฟน กล่าวหาและทวงเงิน เพราะตอนที่เป็นแฟนกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ต่างฝ่ายต่างก็ดูแลกัน ตอนลำบากก็ใช้กินด้วยกัน อยากถามว่าคนเป็นแฟนกันหยิบยืมเงินกันเวลาจำเป็น แล้วอีกฝ่ายกลับคิดเป็นดอกเบี้ย เราจะต้องใช้ชีวิตกับเขาต่ออีกหรือไม่ ช่วงนี้พ่อตนป่วยต้องรักษาตัวที่ รพ. ยังไม่สะดวกที่จะไปพูดคุย   แต่ครอบครัวของแฟน จะกดดันให้ไปคุยกันที่โรงพักอย่างเดียว   “ยอมรับว่าอาจจะผิดที่ไปคุยกับผู้ชายคนอื่น แต่ที่มาเรียกร้องทวงเงินคืนทั้งหมดก็ไม่ถูกต้อง เพราะฝ่ายหญิงก็เสียหายเหมือนกัน หากจะให้รับผิดชอบก็จะรับแค่เงิน 10,000 บาท ที่เคยให้ช่วยหยิบยืมจากคนที่ทำงานด้วยกัน และเงินที่ช่วยซื้อแอร์มาติดตั้งที่บ้านเท่านั้น ตอนเป็นแฟนก็ใช้จ่ายด้วยกัน ไม่ใช่พอเลิกกันแล้วจะมาทวงคืน” อดีตแฟนสาวโต้