รวบ 1 ในแก๊งยิงถล่ม ผญบ.สตูล แต่ลูกชายตายแทน แค้นนำตร.ทลายแหล่งกบดาน
วันที่ 10 มิ.ย. 2559 เวลา 06:28 น.
ตำรวจตามรวบตัว 1 ในแก๊งยิงถล่มบ้าน ผู้ใหญ่บ้านที่จังหวัดสตูล ชี้มูลเหตุโกรธแค้นที่นำตำรวจทลายแหล่งกบดาน ตำรวจกองกำกับการ 6 กองปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุม นายกิติศักดิ์ ช่อปั้น ได้ที่ป่าข้างบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร หลังจากสืบทราบว่า นายกิติศักดิ์ เข้ามาหลบอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.มะนัง เจ้าของคดี นายกิติศักดิ์ คือ 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลมณฑลทหารบกที่ 42 ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 ใน 3 ข้อหาคือ กระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย หลังจากก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงคราม ซุ่มยิงถล่มบ้านของชาวบ้าน 2 หลัง ในคืนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นเหตุให้ เด็กชายจิรศักดิ์ สงด้วง อายุ 13 ปี ลูกชายของ นายจำรูญ สงด้วง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ซึ่งนั่งดูทีวีอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกสาวของนายจำรูญ ได้รับบาดเจ็บ คดีนี้ตำรวจ สภ.มะนัง ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน คือ นายนพดล หรือชา สันเต๊ะ, นายปิยะศักดิ์ ดำสินธุ์ หรือกาย และนายกิติศักดิ์ หรือม่อน ช่อปั้น โดยผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 2 คนมีหมายจับคดีค้างเก่า ลวงตำรวจ สภ.มะนัง ไปฆ่าในสวนยางพารา เมื่อเดือนมีนาคม 2558 เบื้องต้น นายกิติศักดิ์ ให้การปฏิเสธ ไม่ได้ยิงถล่มบ้านของผู้ใหญ่บ้านจำรูญ แต่ได้ร่วมยิงบ้านอีกหลังหนึ่ง ส่วนเหตุที่บ้านนายจำรูญ แค่มานั่งเป็นเพื่อนนายปิยะศักดิ์เท่านั้น มูลเหตุมาจากความไม่พอใจ ที่เข้าใจว่า นายจำรูญ เป็นผู้ชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่นำกำลังกวาดล้างตรวจค้นถ้ำโกบ ทำลายพืชกระท่อมกว่า 200 ไร่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด และจากเหตุ คนร้ายแต่งกายคล้ายนักเรียนอาชีวะ ใช้อาวุธปืนยิงวัยรุ่นชายอายุ 15 ปี 2 คน จนล้มจากรถจักรยานยนต์ บริเวณสี่แยกมีนบุรี กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะวัยรุ่นผู้ขับขี่ 1 นัด ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พลตำรวจตรีชัยพร พานิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เรียกประชุมชุดสืบสวน ตำรวจ สน.มีนบุรี เร่งหาเบาะแสคนร้าย โดยพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีทั้งหมด 5 คน เป็นนักเรียนอาชีวะสถาบันแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เมื่อเห็นผู้เสียชีวิตจอดรถติดสัญญาณไฟแดงอยู่ ก็ได้ขี่รถไปจอดดักหน้า กระทั่งผู้เสียชีวิตขี่รถออกมาจากสี่แยก จึงขี่รถตามไล่ยิง ก่อนจะขี่รถหลบหนีไปทางถนนสุวินทวงศ์ การสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นเหตุเข้าใจผิด เนื่องจากผู้เสียชีวิตแต่งกายคล้ายนักเรียนอาชีวะ ทั้งที่เรียนจบแค่ ม.2 แล้วต้องออกมาหางานทำช่วยเหลือทางบ้าน และไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร