ททท. ต้อนรับ 2 ไฟล์ทสายการบิน SAUDIA เปิดเที่ยวบินตรงจากริยาด และเจดดาห์สู่ภูเก็ต พร้อมจับมือพันธมิตรรุกตลาดซาอุฯต่อเนื่อง เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

View icon 960
วันที่ 4 ธ.ค. 2567
แชร์

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้อนรับ 2 เที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบิน SAUDIA จากกรุงริยาด และเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย สู่จุดหมายปลายทางยอดนิยม ภูเก็ต ประเทศไทยในวันที่ 2 และ 4 ธันวาคม 2567 พร้อมเตรียมร่วมกับสายการบิน SAUDIA และพันธมิตรมุ่งส่งเสริมตลาดซาอุดีอาระเบียที่มีกำลังซื้อสูงและเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยกิจกรรม Joint Sales Promotion และ Roadshow ในปี 2568

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลางและแอฟริกา ททท. กล่าวว่า ภายหลังจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 32 ปี เมื่อปี 2565 ตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2567 นี้ คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 220,000 คน จากประมาณ 36,000 คนในปี 2562 โดยการขยายเส้นทางบินของสายการบิน SAUDIA ด้วยการเปิด 2 เส้นทางบินตรงใหม่ ได้แก่ กรุงริยาด – ภูเก็ต และ เจดดาห์ - ภูเก็ต จะช่วยเพิ่มทางเลือก และอำนวยความสะดวกทางการเดินทางสู่ประเทศไทยให้กับนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลาง โดยเฉพาะการเดินทางสู่ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทางทะเลยอดนิยมระดับโลกของประเทศไทยที่คาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากตลาดซาอุดีอาระเบียอย่างแน่นอน โดยนอกจากการเปิดเส้นทางบินใหม่สู่ภูเก็ตแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาสายการบิน SAUDIA ยังได้เพิ่มเที่ยวบินในตารางการบินฤดูหนาวระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม 2567 – 29 มีนาคม 2568 สำหรับเส้นทางกรุงริยาด - กรุงเทพฯ จากความถี่ 3 เที่ยวบิน เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเส้นทางเจดดาห์ - กรุงเทพฯ จาก 3 เที่ยวบิน เป็น 9 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของดีมานด์จากนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนในประเทศไทยมากขึ้น

ในปี 2568 ททท. ได้วางแผนที่จะต่อยอดรุกตลาดโดยร่วมมือกับสายการบิน SAUDIA และ SAUDIA Holidays ในการร่วมกันทำ Joint Sales Promotion ประชาสัมพันธ์ผ่าน Influencer/ Blogger ช่องทางออนไลน์ รวมถึงทำการตลาดแบบ B2B (Business to Business) เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง อาทิ กลุ่มครอบครัว และมิลเลนเนียล ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2568 ตลอดจนจัด Roadshow นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเดินทางพบปะเจรจาธุรกิจกับตัวแทนบริษัทนำเที่ยว ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย หลังจากการเข้าร่วมงาน Arabian Travel Market (ATM) 2025 ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 เพื่อผลักดันตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียสู่เป้าหมาย 330,000 คน สร้างรายได้กว่า 30,000 ล้านบาทในปี 2568

สายการบิน SAUDIA เปิดให้บริการเส้นทางบินตรง (Direct Flight) เที่ยวบิน SV 852 จากกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ด้วยจำนวนความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์) และเที่ยวบิน SV 850 จากเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ประเทศไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์) โดย   Mr. Abdulaziz Alkhudhairi Deputy Ambassador of Saudi Arabia to Thailand นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลางและแอฟริกา ททท. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับนายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินปฐมฤกษ์อย่างอบอุ่นด้วยการแสดงหุ่นละครเล็กและของที่ระลึก ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต

ตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียถือเป็นกลุ่มตลาดระยะไกลที่มีศักยภาพสูง โดยเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาทต่อทริป หากเทียบกับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมซึ่งอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาท โดยในปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศไทย จำนวน 188,276 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยมักเดินทางเป็นกลุ่มครอบครัว 3-5 คน จำนวนวันพักเฉลี่ย 11.4 คืน นิยมแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อาหาร สปา สถานบันเทิง และชอปปิง โดยมีจุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา กระบี่ และสมุย นอกจากนี้ยังมีความสนใจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นโอกาสของประเทศไทยในการขยายฐานลูกค้าซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลางในระยะยาว

674fbeb3c06e10.65029930.jpg

674fbeb2e95a54.60646933.jpg

674fbeb3e19279.37416619.jpg

674fbeb30c8ef7.76901528.jpg

674fbeb3821ae5.14977698.jpg

674fbeb2bb3c77.76024434.jpg

674fbeb336b6b7.44529709.jpg

674fbeb3617ad7.36460452.jpg